การเลือกสปริง โดบินสันให้ Fortuner จากข้อมูลผู้ขายสปริง
ด้านหน้า Dobinson 274 ด้านหลัง 335 สำหรับเครื่องดีเซล นุ่มที่สุด ขับขี่สบายเหมาะกับรถครอบครัวครับ ชุดนี้เป็นชุดยอดนิยมครับ
ด้านหน้า Dobinson 136 ด้านหลัง 335 สำหรับเครื่องเบนซิน น้ำหนักรถเบากว่าเครื่องดีเซลเลยต้องเปลี่ยนเบอร์สปริงหน่อยครับ นุ่ม หนึบขับขี่สบาย ไม่แข็งท้ายไม่เหวี่ยง ไม่โคลง ครับ
ด้านหน้า Dobinson 136 ด้านหลัง 379 สำหรับเครื่องเบนซิน (ติดแก๊ส) เพิ่มน้ำหนักถังแก๊ส เลยต้องเปลี่ยนเบอร์สปริงหน่อยครับ นุ่ม หนึบขับขี่สบาย ท้ายไม่ทรุด ไม่แข็ง ท้ายไม่เหวี่ยง ไม่โคลง
ด้านหน้า Dobinson 136 ด้านหลัง 355 สำหรับเครื่องเบนซิน (ติดแก๊สทั้งใหญ่ๆ หรือNGV) น้ำหนักถังแก๊สหนักมากต้องเปลี่ยนเบอร์สปริงเพื่อช่วยลดอาการท้ายห้อย หน้าเชิด ครับ นุ่ม หนึบขับขี่สบาย ไม่เหวี่ยงไม่โคลง
ด้านหน้า Dobinson 128 ด้านหลัง 349 สำหรับรถที่ต้องการโหลดเหมือน TRD ประมาณ1.5นิ้ว นุ่ม หนึบขับขี่สบาย เข้าโครงดี รถไม่โครง ไม่แข็ง ท้ายไม่เหวี่ยง
ด้านหน้าให้ลองใช้บิวสไตน์ กระบอกเงิน ถ้าชอบนุ่ม ๆ หรือ wescoat แต่รุ่นผมไม่ทราบว่ารุ่น 2wd เขาใช้ Part no.รุ่นอะไร ถ้าด้านหน้าชอบแนวแข็ง ๆหน่อยก็คงต้องเล่นบิวเหลืองของอเมริกา เพราะบิวเหลืองเยอรมันแข็งไปสำหรับเบนซินแต่จะเหมาะกับดีเซลมากกว่า
ด้านหลังให้ใช้ MX6 + สปริง Dobinson เบอร์ 379 สำหรับแนวกลาง ๆ หรือแนวนุ่มหน่อยนึง ก็เป็นอีกเบอร์นึงผมจำไม่ได้ว่าเบอร์อะไร
ฟิลลิ่งด้านหลังจะได้นุ่มหนึบ คือโช๊คแข็งแต่สปริงอ่อน น่าจะได้นุ่มหนึบตามแนวที่ต้องการ หรือจะเอาด้านหลังแข็งได้อีกก็ได้อยู่ที่เราเลือกเบอร์สปริง ให้ลองถามร้านดูครับ
อ้อลืมไปครับ ถ้าไม่เปลี่ยนสปริง
เรื่องการใช้โช๊ค Rancho 9000xl กับ MX6 ถ้าเป็น Fortuner ชอบแนวนุ่มแต่ไม่โคลงก็ควรเลือกเป็น Rancho 9000xl เพราะเราเลือกปรับได้ตั้งแต่เบอร์ 2-5 เพราะมันปรับได้ 9 ระดับ
แต่ถ้าเอาหนึบยัดโค้งแรง ๆ หรือรูดทางขรุขระบ่อย ๆ เลือกเป็น MX6 ดีกว่า แต่ว่าถ้าเอามาวิ่งช้า ๆ ในเมือง หรือเอามาหยอดลูกระนาดมันจะแข็งนะครับ MX6 ต้องวิ่งเร็ว ๆ รูดทางขรุขระจึงจะนิ่ม
http://www.mirth4x4.com/product.asp
-สนใจจะเปลี่ยนช่วงล่าง เปรียบเทียบโช๊ค WEST COAST กับ โช๊คยี่ห้อ BILSTEIN กระบอกเหลือง ซึ่งโช๊คทั้งคู่ เป็นโช๊คประเภทกึ่งแก๊สกึ่งน้ำมันเหมือนกัน ครับ
-โช๊คคู่หน้า WEST COAST มี 2 แบบ คือ
-1.แบบ TWIN TUBE (กระบอกท่อคู่) เป็นโช๊คแบบสตรัทปรับเกลียว ออกแบบมีวาวล์แปรผันตามสภาพถนนเหมือนกัน ซึ่งโช๊ต จะแยกออกเป็น 2 เบอร์ คือ
-เบอร์ GS 8524 โช๊คเบอร์นี้ ออกแบบเหมาะสำหรับดีเซลชับ 4WD ออกแนวนุ่ม หากรถฟรีรันเนอร์ใส่ได้ไหม ใส่ได้เหมือนกัน สำหรับท่านที่เน้น หนึบๆ
-เบอร์ GS 8524 C (COMFORT) เบอร์นี้จะออกแบบมานุ่มมากๆ เหมาะสำหรับรถฟรีรันเนอร์ หรือ เครื่องยนต์เบนชินทั้ 2WD หรือ 4WD เนื่องจากรถพวกนี้น้ำหนักด้านหน้า จะเบากว่ารุ่นดีเซล 4WD ครับ
-ราคา 12,000 บาท ต่อคู่ รับประกัน 1 ปีไม่จำกัดกิโลฯ
-2. แบบ MONOTUBE หรือโช๊คกระบอกท่อเดี่ยว ตอนนี้กระแสจะนิยมมาทางนี้มากกว่า ครับ มีวาวล์แปรผันตามสภาพถนน พิเศษตรงที่ว่า ระบบโช๊ค MONO TUBE จะตอบสนองการเก็บรายละเอียดกับสภาพพื้นผิวถนน ได้ดี รวดเร็ว และแม่นยำกว่าโช๊คประเภท TWIN TUBE ขับช้ายังนุ่มอยู่ และขับไวๆแบบรูดไปเลย จะเนียน ครับ โดย WEST COAST MONO TUBE ก็ออกแบบมา 2 เบอร์เหมือนกัน ซึ่ง จะออกแบบมาเพื่อรองรับ น้ำหนักเครื่องยนต์ และสไตร์การขับขี่และความชอบชองแต่ละคน ครับ
-เบอร์แรก GS 9524 C (COMFORT) ระหัสขึ้นต้นด้วยเลข 9 จะเป็นรุ่นพิเศาของ WEST COAST ครับ โช๊คอัพ GS 9524C จะออกแบบวาวลืโช๊คมานุ่มนวล เพื่อใส่กับรถฟรีรันเนอรื หรือ รถเครื่องยนต์เบนชินทุกรุ่น ครับ หลังติดตั้งแล้ว ออกแนวนุ่ม แต่จะหนึบไม่มาก ครับ เหมาะสำหรับท่านที่ขับขี่ไม่ไวมาก ครับ หรือ รถ ฟอร์จูนฯ 4 WD ก็ติดตั้งได้หากขับความเร็วไม่เกิน 140-150 กม/ชม หาก เป็น เครื่องยนต์เบนชิน หรือฟรีรันเนอร์ ขับไวๆ 170-180 ก็ยังควบคุมรถอยู่ อย่างที่บอกดีเซล 4WD บางท่านจะติว่านุ่มไปนิด หากชอบ หนึบๆ GS 9524B คือ เบอรืโช๊คที่จะพูดถึง ครับ
-เบอร์โช๊คหน้า GS 9524B แบบ MONO TUBE ออกแบบวาวล์ค่อนข้างหนึบ เหมาะสำหรับฟอร์จูนฯดีเซล 4 WD โดยเฉพาะ ความนุ่ม นุ่มกว่ารถเดิมอยู่ แต่อย่างที่บอกออกแบบวาว,หนึบ ขับไวๆมั่นใจ หลับหูหลับตาขับ สมรรถนะหายห่วง เข้าโค้ง โดดคอสะพานนิ่ง แต่ใช่ว่ารถกระด้าง บางท่านที่ติดตั้งไป ขับไวๆ มันส์ จะชอบใส่เบอร์นี้ หากไม่เปลี่ยนสปริง นุ่มไม่เยอะ ให้ดีต้องเปลี่ยนสปริงควบคู่ไปด้สย จึงจะ นุ่ม เนียน นิ่ง ครับ หากดีเซล 4WD ขับไม่ไวมาก เบอร์ GS 9524 C (COMFORT) ใส่ก็นั่งสบายดี หากเป็นคนขับไม่ไวมาก ประมาณ 140-150 ครับ
-ราคา GS 9524C และ GS 9524B ราคาคู่ละ 14,500 บาท รับประกัน 3 ปีหรือ 1แสนโลฯ (อย่าตกก๊ะใจ รับประกันนานโคตร)
-สำหรับเจ้าของกระทู้ เป็นผู้หญิง คงไม่ขับไวมาก เบอร์ GS 9524C จะลงตัวกว่า ครับ หรือ GS 8524 ก็ใช้ได้ ครับ แม้ใส่สปริงจากโรงงาน
-สำหรับโช๊คคู่หน้า BILSTEIN ซึ่ง BILSTEIN ก้ไม่น้อยหน้า โช๊คออกแบบมาเป็น MONO TUBE จากข้อมูลด้านบน คงจะเข้าใจแล้วว่า โช๊๕ระบบ MONO TUBE ดีอย่างไง ครับ อย่างที่บอกเพื่อไม่ให้น้อยหน้า BILSTEIN ก็ออกแบบโช๊คมา 2 เบอร์ คือ BILSTEIN กระบอกสีเงิน และ BILSTEIN กระบอกสีเหลือง
-BILSTEIN กระบอกสีเงิน ออกแบบมาวาล์จะนุ่ม เหมาะสำหรับรถรุ่น ฟรีรันเนอร์ หรือ เครื่องยนต์เบนชินทุกรุ่น ที่จะใส่คู่สปริงเดิม รุ่นนี้บางที่ใส่ปริงเบอร์นุ่มไป ก็ออกอาการโยนๆได้เหมือนกัน ต้องดูๆให้ดี ครับ ว่าสปริงที่ใช้เป็นเบอร์นุ่มไปไหม หากนุ่มไปก็ไม่ดี ครับ สปริงเดิมๆ ใส่ได้ ไม่มีปัญหา ครับ ราคา 14,500 บาท รับประกัน 2 ปีหรือ 40000 โลฯ
- BILSTEIN กระบอกสีเหลือง ออกแบบมาสำหรับ ฟอร์จูนฯดีเซล 4WD เน้นนุ่ม หนึบ เนียน ในขระที่ใช้ความเร็วสูง ฟอร์จูนฯฟรีรันเนอร์ก็ใส่ได้ หรือ เครื่องยนต์เบนชินที่ชอบหนึบๆหน่อยก้ใส่ได้ อยู่ที่การเลือกสปริงใส่ควบคู่ ครับ หากเราติดตั้งและได้ทดสอบอยู่เรื่อยๆ ประสบการณ์ ก็จะช่วยสอนเรา ครับ ราคา 13,500 บาท ครับ รับประกัน 1 ปีหรือ 20000 โลฯ
-สำหรับเจ้าของกระทู้ BIL เหลืองก็ใส่ได้ ครับ หากเทียบแล้ว BIL เหลือง ความนุ่ม อยู่กึ่งกลาง ระหว่าง WEST COAST GS 9524C และ GS 9524B ครับ
-มาดูด้านหลัง จะเลือกโช๊คอัพอะไรดี ระหว่าง MX 6 กับ RANCHO 9000XL ทั้งคู่ เป็นโช๊ค กึ่งแก๊สกึ่งน้ำมันเหมือนกัน และสามารถปรับนุ่มแข็งได้เหมือนกัน ครับ
-RANCHO 9000XL สามารถปรับความนุ่มแข็งได้ 9 ระดับ แต่เป็นโช๊คแบบ TWIN TUBE โดยไม่ได้ออกแบบระบบโช๊ค แบบมีวาวล์ทำงานแปรผันตามสภาพถนน เราตั้งเบอร์โช๊ค หรือเลือกไว้เบอร์ไหน โช๊คจะทำงานตามคำสั่งของเจ้าของรถ ครับ
-เราทราบไหมว่า หน้าที่ของโช๊คนอกจากให้ความนุ่มแข็งแล้ว ยังทำอะไรได้อีก ซึ่งคนส่วนใหญ่จะถามหาแต่ ความนุ่ม ความแข็งอย่างเดียว การทำงานและหน้าที่โช๊คอัพ ไม่เคยถามเลยว่า โช๊คมีหรน้าที่อะไร
-หน้าที่ของโช๊ค หลักๆเลย คือ ควบคุมระบบช่วงล่าง ระที่เป็นแหนบ หรือ ทอร์ชั่นบาร์ ก็จะควบคุมการทำงานตรงนี้
-รถฟอร์จูนฯ ช่วงล่างเป็นคอยล์สปริง หน้าที่ของโช๊ค คือ ควบคุมการดีดของสปริง
-สปริงทำงานอย่างไง สปริงก็จะดีดตามสภาพถนน หลุมมากก็ดีดมาก หลุมน้อยก็ดีดน้อย เราสังเกตุว่า ทำไมรถฟอร์จูนฯ ของเราวิ่งบนทางด่วน ทำไมมันนุ่มจัง หากเป็นแบบนี้ คงไม่อยากเสียตังค์ แต่พอขับเจอทางด้านล่าง ยิ่งมีหลุม บ่อ ตะเข็บถนน รถทั้งดีด ทั้งเด้ง ก็เพราะสภาพถนน กับการทำงานของโช๊คอัพไม่สัมพันธ์กัน เพราะโช๊คอัพ โรงงาน ออกแบบมา แรงดึง แรงต้านคงที่ แต่สปริงดีดไม่คงที่ จึงเป็นที่มาของความกระด้าง ส่งถึงหน้าท้องทั้งคนขับและผู้โดยสาร ครับ
-RANCHO 9000XL ก็ไม่แตกต่าง จากโช๊คเดิมมากนัก แต่ถามว่า ติดตั้งแล้วดีกว่าเดิมไหม ดีกว่าเดิม ครับ แต่ยังไม่เด่น พอ ครับ ดีเฉยๆ ไม่ใช่ดีเด่น ซึ่งความหมายแตกต่างกัน ครับ เพราะRANCHO ทำงานตามที่เราตั้งเบอร์โช๊คไว้ไง ครับ ราคาค่าตัว คู่หลัง 7,500 บาท ครับ รับประกัน 1 ปีหนฃรือ 20000 โลฯ ครับ
-มาดู MX 6 เป็นโช๊คแบบ MONO TUBE คงเข้าใจระบบทำงาน ที่รวดเร็ว แม่นยำ นอกจากนี้ ยังปรันความนุ่ม แข็งได้ 6 ระดับ เท่านี้ยังไม่พอ มีวาวล์แปรผันตามสภาพถนนอีก ครับ หากอ่านข้อมูล ด้านบน จะเข้าใจ จะรู้ว่า ทุกอย่าง มีอยู่ในโช๊ค MX 6 ครับ คงไม่ต้องอธิบายอะไรอีกแล้ว ราคา 9,500 บาท ครับ รับประกัน 2 ปี หรือ 40000 โลฯ ครับ
-การเลือกโช๊คอัพ ไม่จำเป็นต้องเลือกยี่ห้อเดียว กัน ครับ เราสามารถคัดสรรสิ่งที่ดีๆ ใส่รถเราได้ ครับ และจะเข้าใจว่าทำไม ทางร้านต้องแนะนำ ดีงกล่าว ครับ
-อย่าลืมลมยาง ครับ ไม่เกิน 30-32 ปอนด์ ครับ
-หรือ อยากดูเหตุผล ก็จะรู้ว่า MX 6 กับ RANCHO เป็นอย่างไง ลูกค้า ที่ติดตั้งไปมีคำตอบให้ ครับ ดูกระทู้ก่อนหน้านี้ ประมาณ กระทู้ 5022-5020 ครับ
- ผมใช้ Fortuner ดีเซล 4x4 ล้อขอบ 18 ได้เปลี่ยนชุดหน้าเป็น WC ตัวใหม่กระบอกเงิน สปริง Do 274 ชุดหลังเป็น MX6 สปริง Do 335 ผลที่ได้คือ ประทับใจ ตามสูตร 4 น. ของเฮียอนันต์ คือ นุ่ม หนึบ นิ่ง และแน่น (จริงๆ ครับ) ดีกว่าหลายๆ ชุดที่เคยใส่มา ตั้งแต่ระดับ หมื่นกว่าๆ ยันห้าหมื่นกว่า (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)
- ปัจจุบัน เพิ่งเปลี่ยนเป็นล้อขอบ 16 นิ้ว แบบเดิมๆ ติดรถ ยิ่งประทับใจมากๆๆ ความนุ่มนวลน้องๆ รถเก๋งจริงๆ ครับ ไม่โคลง ไม่ยวบยาบ ไม่เต้น ขับสบายมากๆ ไม่เกร็ง และปวดหลังเหมือนก่อน ที่บ้านชอบใจมาก
- ความคิดเห็นของผมว่าล้อเดิมๆ ติดรถ + โช๊ค + สปริงดี สักชุดแบบนี้ ทำให้รถ Fortuner ที่ใครๆ หลายคนบ่นว่านั่งไม่สบาย กระแทก กระด้าง และโคลง กลายเป็นรถที่น่าใช้มากๆ ครับ
- ถ้าใครไม่แน่ใจ หรือกลัวว่าเปลี่ยนแล้วจะไม่ประทับใจ มาลองขับ ลองนั่งรถผมได้ครับ ว่า OK.มั๊ย แล้วค่อยวิ่งไปหาเฮียอนันต์ ติดต่อ เปิ้ล 081-1910011 ขอบคุณครับเฮีย สำหรับพื้นที่แสดงความคิดเห็น
-ฟอร์จูนฯ ขับ 2WD น้ำหนักจะเบาด้านหน้า เนื่องจากไม่มีชุดเพลา และเฟืองขับ 4WD หากเราใส่สปริงรุ่น 4WD บางท่านก็จะบอกว่าตึงไปนิด บางท่านก็ชอบ แต่ความสูงของรถด้านหน้าจะเพิ่มขึ้น ครับ
-คันของ คุณ สุรพงษ์ ด้านหน้าผมใส่ สปริง ความสูงเท่าสแตนดาร์ท DO 59 136 ครับ (ใส่ DO 59 274 รถจะสูงกว่าเดิม ครับ เหมาะสำหรับรถ ฟอร์จูนฯ 4WD) สปริงหลัง DO 59 379 ครับ
-โช๊คหน้า BILSTEIN กระบอกเหลือง และโช๊คหลัง MX 6 ครับ
-งบ 40,000 บาท ครับ
Mirth4x4 Group บริหารงานโดย อนันต์ วงศารัตนศิลป์ ผู้จุดประกายการปรับปรุงระบบรองรับช่วงล่างรถยนต์ 4WD, 2WD เพื่อความนุ่มนวล มานานกว่า 10 ปี
ติดต่อคุณ อนันต์ได้ที่ anan@mirth4x4.com
HOTLINE ปรึกษาช่วงล่าง หรือลงรายละเอียดให้ลึก 01-665-5685
เมิธ 4x4 กรุ๊ป
สาขา ถนนรามอินทรา กม. 7
แขวงคันนายาว เขตคันนายาว
กทม. 10230
โทร 0-2944-3966
แฟกซ์ 0-2944-3994
Teentoa Shop 3 / ตัวแทนจำหน่ายสปริง Dobinson สปริงที่ให้ความหนึบมากกว่าของติดรถ เหมาะสำหรับรถที่ต้องการลดการโคลงตัวของรถที่มีน้ำหนักบรรทุกหรือสัมภาระอยู่บ่อยๆ สำหรับรถเก๋ง รถ suv ทุกรุ่น สอบถามราคาสินค้าและรายละเอียดได้ที่ Teentoa Shop 3
นายโต้ง 086-6699440
นายเบียร์ 081-8669806
ติดตามรายละเอียดสินค้าได้ที่
http://www.dobinsonsprings.com/